“ปลั๊กไฟ” ใครว่าไม่สำคัญ (ปลั๊กไฟแต่ล่ะประเทศไม่เหมือนกัน)

“ปลั๊กไฟ” สิ่งเล็กๆที่เราขาดมันไม่ได้ใช่หรือไม่??

ในวันที่โลกเต็มที่ไปด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เราจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าปลั๊กไฟนั้นคือสิ่งจำเป็นอย่างมากในชีวิตโดยเฉพาะในเวลาค่ำคืน เคยมั๊ยที่เวลาไปเที่ยว หันซ้ายหันขวา เดินหาปลั๊กไฟทั่วห้องเพื่อให้พอกับมือถือ, power bank, กล้องถ่ายรูป, ipad บลาๆๆๆ ถ้าไปเที่ยวที่เมืองไทย ชีวิตก็คงจะไม่ลำบากอะไรมากนักในการเสียบสายชาร์ตของสารพัดสิ่งเข้ากับปลั๊กไฟ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วสายชาร์ตของเราเสียบเข้ากับเต้าเสียบปลั๊กไฟไม่ได้ เมื่อนั้นละ ปัญหาใหญ่ในชีวิตจะเกิดขึ้นทันที

วันนี้เราค้นคว้าหาข้อมูลของปลั๊กไฟในประเทศต่างๆมาให้ เพื่อให้ทุกท่านเตรียมพร้อมหาตัว adapter เพื่อไปชาร์ตแบตให้กับสารพัด gadget และอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของเรา 

ดังนั้นก่อนไปเที่ยวต่างประเทศ เราควรเตรียมพร้อมด้วยการหาซื้อหัวแปลงให้เหมาะกับประเทศนั้นตามร้านขายเครื่องไฟฟ้าเพื่อให้ที่ชาร์ตแบต และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราพกใส่กระเป๋าไปท่องเที่ยวด้วยใช้งานได้  นอกจากนั้นถ้าท่านเดินทางบ่อยหรือต้องเดินทางหลายๆประเทศ แนะนำให้หาซื้อ Universal Adapter มีปลั๊กตัวนี้ตัวเดียวก็สามารถนำไปใช้ในประเทศต่างๆได้เลย

Tip เล็กๆน้อยๆจากประสบการณ์ของด้วยตัวเอง คือ ไม่ว่ารูปแบบปลั๊กของประเทศนั้นจะเป็นอย่างไร เราก็อย่าลืมพกปลั๊กสามตาตัวเล็กๆใส่กระเป๋าไปด้วย มีหลายครั้งที่ในโรงแรมมีเต้าเสียบปลั๊กให้แค่ 1-2 รู ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเลย ต้องจัดเวรคอยตื่นมาสลับเสียบที่ชาร์ตของสารพัดสิ่งกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน ตอนหลังๆเลยเอาปลั๊กสามตาไปด้วยตลอด เพื่อลดอัตราการตบตีแย่งปลั๊กไฟกับเพื่อน

นอกจากนี้ถ้าเราลืมเอาไปจริงๆ เราสามารถสอบถามกับทางโรงแรมได้ เพราะในหลายๆโรงแรมเขาจะมีให้ยืม  ไหนๆก็ไหนๆแล้ววันนี้น้องณํชชา.... จะขอมาสอนภาษาอังกฤษคำว่าปลั๊กให้ เผื่อใช้ยามฉุกเฉิน ดังนี้ค่ะ

• ปลั๊กตัวเมีย  หรือ ตัวที่มันติดผนังอยู่ เรียกว่า Socket-outlet หรือ Receptacle
• ปลั๊กตัวผู้  เรียกว่า plug 
• ส่วนตัวที่เราจะเปลี่ยนหัวปลั๊ก เรียกว่า Plug adapter
• ปลั๊กสามตา เรียกว่า   Extension socket

Cr. pic/content : ipicktravel.com , pic : http://pantip.com/topic/31251769